รู้ทันสาเหตุและวิธีรักษาอาการคันอวัยวะเพศหญิง
อาการคันบริเวณช่องคลอดเป็นปัญหาที่พบบ่อย สร้างความรำคาญ ความอึดอัด ที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งสาว ๆ หลายคนที่มีอาการคันอวัยวะเพศหญิงอาจรู้สึกอาย ทำให้ไม่กล้าไปปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีรักษา หรือซื้อยามาใช้ จนเกิดอาการรุนแรงมากขึ้น ทำให้รักษาได้ยาก
ในบทความนี้จะมาแนะนำความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับสาเหตุของอาการคันบริเวณช่องคลอด วิธีรักษา และการป้องกันที่ช่วยลดความเสี่ยง ไม่ให้อาการเหล่านี้กลับมาเป็นซ้ำได้อีก ตามมาดูกันเลย
สาเหตุของอาการคันอวัยวะเพศ
อาการคันอวัยวะเพศหญิง (Vaginal Itching) คือ ความรู้สึกระคายเคืองหรือคัน ที่เกิดได้ทั้งบริเวณอวัยวะเพศภายนอกและภายในช่องคลอด และในบางรายอาจมีการแสบคันรอบช่องคลอด หรือมีตกขาวจากการติดเชื้อร่วมด้วยได้ โดยสามารถแบ่งสาเหตุการเกิด ดังนี้
อาการคันจากภายนอก
อาการคันอวัยวะเพศหญิงภายนอก คือ อาการคันบริเวณปากช่องคลอดและเนื้อเยื่อโดยรอบ มักเกิดจากหลายสาเหตุ ตั้งแต่การระคายเคืองง่าย ไปจนถึงการติดเชื้อที่รุนแรง โดยมีสาเหตุดังนี้
- ความระคายเคืองจากสารเคมี เช่น สบู่ น้ำยาทำความสะอาด ผ้าอนามัย
- การสวมใส่กางเกงในที่คับเกินไป จนเกิดการเสียดสีกับผิวหนัง
- การโกนขนบริเวณอวัยวะเพศ
- ความเครียด
- โรคผิวหนังอักเสบ
- การขาดฮอร์โมนเอสโตรเจนในช่วงวัยทอง ทำให้ผิวหนังและขนบริเวณอวัยวะเพศบางลง
อาการคันจากภายใน
ปัญหาอาการคันภายในช่องคลอดหรือภายในอวัยวะเพศ เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชนิดภายในช่องคลอดขาดสมดุล ซึ่งมักพบร่วมกับการตกขาวที่ผิดปกติ เช่น เป็นก้อนข้น ตกขาวสีเหลือง/เขียว มีกลิ่นเหม็น โดยมีสาเหตุดังนี้
- การติดเชื้อราแคนดิดา อัลบิแคนส์ (Candida Albicans)
- การติดเชื้อแบคทีเรีย
- การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หูด เริม โรคหนองใน พยาธิในช่องคลอด
วิธีรักษาอาการคันอวัยวะเพศหญิง
ผู้ป่วยหลายคนอาจสงสัยว่า อาการคันอวัยวะเพศหญิงภายนอกควรใช้ยาอะไร หรือหากติดเชื้อคันปากช่องคลอดควรกินยาอะไร ทั้งนี้วิธีการรักษาที่ถูกต้องควรได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ เนื่องจากอาการความรุนแรงและสาเหตุการเกิดของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน โดยทั่วไปมีวิธีการรักษาอาการ ดังนี้
- ยาเหน็บช่องคลอด
- ยากลุ่มเมโทรนิดาโซล (Metronidazole) หรือคลินดาไมซิน (Clindamycin) ใช้รักษาอาการติดเชื้อแบคทีเรีย
- ยากลุ่มโคลไทรมาโซล (Clotrimazole), ไมโคนาโซล (Miconazole), และไทโอโคนาโซล (Tioconazole) ใช้รักษาอาการคันที่มีสาเหตุจากการติดเชื้อรา
- เจลที่มีส่วนประกอบของกรดแลคติก (Lactic Acid) และไกลโคเจน (Glycogen) ใช้รักษาแบคทีเรียในช่องคลอดให้อยู่ในภาวะสมดุล
วิธีป้องกันการระคายเคืองปากช่องคลอด
สำหรับวิธีป้องกันอาการคัน ระคายเคืองอวัยวะเพศหญิงที่ดีที่สุด คือการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้มีสุขอนามัยที่ดี จะช่วยลดโอกาสการติดเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ โดยสามารถปฏิบัติตามได้ดังนี้
- ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นด้วยน้ำเปล่า ลดความเสี่ยงช่องคลอดเสียสมดุลความเป็นกรด/ด่าง
- สวมใส่กางเกงในที่ผลิตจากวัสดุระบายอากาศได้ดี เพื่อไม่ให้เกิดการอับชื้น
- ซับบริเวณอวัยวะเพศให้แห้งอยู่เสมอ โดยซับจากด้านหน้าไปด้านหลัง เพื่อป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่บริเวณช่องคลอด
- เปลี่ยนผ้าอนามัยหรือแผ่นอนามัยทุก 4 ชั่วโมง หรือเร็วกว่านั้นหากประจำเดือนมามาก
- ใช้การเล็มขนบริเวณหัวหน่าว แทนการโกนหรือแว๊กซ์ เพื่อลดอาการคัน
- หลีกเลี่ยงการมีคู่นอนหลายคน เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- ไม่สวนล้างช่องคลอด
อาการคันระคายเคืองบริเวณช่องคลอดสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ และอาจมีอาการรุนแรงมากกว่าที่คิด ดังนั้นหากสาว ๆ คนไหนมีอาการคันอวัยวะเพศหญิง คันปากช่องคลอด ควรเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อการรักษาที่ถูกต้องและปลอดภัย
แหล่งอ้างอิง :
- คันช่องคลอด คันอวัยวะเพศหญิงเกิดจากอะไร มาดูสาเหตุ และวิธีรักษา สืบค้นเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2567 จาก https://www.bedee.com/articles/women-health/vaginal-itching
- คันน้องสาว!? รู้ทัน ป้องกัน ไกลโรค สืบค้นเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2567 จาก https://mordeeapp.com/th/article/สุขภาพสตรี/คันน้องสาว-รู้ทัน-ป้องกัน-ไกลโรค
- คันอวัยวะเพศ สัญญาณของโรคอะไรบ้าง สืบค้นเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2567 จาก https://www.petcharavejhospital.com/en/Article/article_detail/Vaginal-Itching-What-are-the-signs-of-Disease